Dolby Cinema vs Dolby Vision + Atmos ประสบการณ์ที่แตกต่าง
- K9

- 6 hours ago
- 1 min read

ในยุคที่เทคโนโลยีภาพและเสียงของโรงภาพยนตร์พัฒนาอย่างก้าวกระโดด เราคงเคยเห็นป้าย Dolby Cinema ติดอยู่หน้าโรงหนังต่างประเทศมาบ้างแล้ว หลายคนอาจเคยได้ไปลองสัมผัส ซึ่งก็น่าจะเป็น “สุดยอดประสบการณ์ภาพยนตร์” อีกหนึ่งรูปแบบที่หลายคนติดใจจนอยากกลับไปดูซ้ำอีกแน่นอน ส่วนใครที่ยังไม่เคย ก็รอดูที่ไทยว่าเราจะได้ไปถึงระดับไหน...
แต่ทำไมโรงหนัง Dolby มีหลายแบบ หลายชื่อล่ะ? ส่วนที่เราคุ้นเคยกันมานานแล้วก็น่าจะเป็นระบบ Dolby Atmos ซึ่งเป็นโรงหนังปกติ ที่ติดตั้งระบบเสียง Atmos เพิ่มเข้าไป แต่ที่น่าตื่นตา และดูเป็นที่สนใจของคอหนังมากกว่า ก็ต้องยกให้ Dolby Cinema และ Dolby Vision + Atmos
และคำถามที่ตามมาก็คือ Dolby Cinema กับ Dolby Vision + Atmos มันเหมือน หรือต่างกันยังไง? บทความนี้จะช่วยอธิบายให้เห็นภาพมากขึ้น

ปัจจุบัน Dolby Cinema และ Dolby Vision + Atmos มีมากกว่า 284 โรงภาพยนตร์ทั่วโลก และกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับประเทศไทยยังไม่มี Dolby Cinema เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ แต่กำลังมีโรงใหม่ที่อัพเกรดเป็น Dolby Vision + Atmos ในกรุงเทพฯเร็วๆ นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพ-เสียงระดับ High-End
Dolby Cinema = Flagship Experience ที่ถูกออกแบบและผ่านมาตรฐานโดย Dolby
ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก:
1️⃣ Dolby Vision Laser Projection
ใช้ Dual 4K laser projection system สำหรับการแสดงผลแบบ HDR
ความคอนทราสต์สูงสุด 1,000,000:1
Peak brightness สูงกว่าโปรเจกเตอร์โรงปกติแบบบหลายเท่า
Black level ลึกมาก (ให้ภาพดำสนิท)
2️⃣ Dolby Atmos Multidimensional Audio
ลำโพงรอบทิศรวมเพดาน 40-64 ตัว แล้วแล้วแต่ขนาดโรง
รองรับ object sound ลอยเป็นจุดใน 3D space ให้มิติรอบด้าน
ระบบติดตั้งตามมาตรฐาน Dolby (ไม่ใช่แค่ติด Atmos แบบโรงปกติ)
3️⃣ Dolby Cinema Design (เฉพาะโรงที่ได้ลิขสิทธิ์ Dolby Cinema)
ภายในโรงมืดสนิท มีเส้นไฟทางเดินเฉพาะ (Signature Blue Ribbon)
ความมืดที่ถูกควบคุม เพื่อให้ HDR ทำงานได้เต็มที่
ผนังด้านข้างสีดำ ดูดซับเสียง และติดตั้งแบบซ่อนล่าโพง
ที่นั่งลาดชัน และมุมมองการนั่งถูกออกแบบให้เป็น Experience
จอแบบ High-gain รองรับ Dark Environment 100%

ส่วน Dolby Vision + Atmos เป็นโรงหนังที่ใช้เครื่องฉาย 4K Laser รองรับ Dolby Vision และมี Dolby Atmos ก็ถือว่าเป็นโรงระดับ Premium มากแล้ว แต่…
สเปกโปรเจกเตอร์แต่ละโรงต่างกัน เครื่องฉาย Dual 4K Laser รุ่นท็อป แสดงผลแบบ HDR (*บางโรงอาจไม่การันตีว่าเป็นรุ่นเดียวกับ Dolby Cinema)
ให้ภาพดำสนิท ความคอนทราสต์ ความสว่างสูงกว่าโปรเจกเตอร์โรงปกติ
แต่การออกแบบภายในโรงอาจไม่มืดพอ หรือมีแสงสะท้อน
มุมมองที่นั่งไม่ถูกคำนวณตามมาตรฐาน Dolby
การติดตั้งลำโพง Atmos มีหลายระดับ
ทำให้คุณภาพ HDR / เสียงรอบทิศ ขึ้นอยู่กับการออกแบบของโรงนั้นๆ

สรุปว่า....
Dolby Cinema ทุกโรงเป็น Dolby Vision + Atmos เต็มรูปแบบ
แต่ Dolby Vision + Atmos บางโรง อาจไม่ใช่ Dolby Cinema เสมอไป
Dolby Cinema คือประสบการณ์ “ระดับสูงสุด” ของ Dolby
Dolby Vision + Atmos เป็นเพียง “ระดับเทคโนโลยีของหนัง”
ห้องฉาย และมาตรฐานการติดตั้ง คือสิ่งที่สร้างความแตกต่าง
หากได้ลอง Dolby Cinema สักครั้ง จะเข้าใจว่าทำไมหลายคนถึง ยอมจ่ายแพงกว่า เพื่อภาพที่ดีที่สุดเท่าที่โรงหนังจะให้ได้

ถ้าเปรียบเทียบง่ายๆ Dolby Vision Atmos ก็เหมือนเครื่องยนต์พรีเมียม ส่วน Dolby Cinema ก็เป็นรถ Supercar ทั้งคัน นั่นเอง.....

ตัวอย่าง Dolby Cinema





Comments